สวิตเซอร์แลนด์ แดนในฝัน…ตอนท่องเที่ยวในเมือง Lucerne

chrisbkk
chrisbkk 1 Min Read

ฤดูร้อนที่ลูเซิร์นถือว่าเป็นฤดูที่คึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติหรือแม้กระทั่งคนท้องถิ่นเองก็ชอบออกมาทำกิจกรรมกลางแจ้ง เช่นว่ายน้ำ พายเรือ เดินเขา หรือออกมาจิบกาแฟยามว่าง

ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ครึกครึ้นที่สุด และเป็นช่วงเวลาที่เหมาะกันการท่องเที่ยวเป็นที่สุดเพราะว่าอากาศไม่หนาวเย็น ฝนไม่ค่อยตก และมีแดดตลอดทั้งวัน เหมาะแก่การถ่ายสวยๆ เก็บไว้เป็นที่ระลึก

เมืองลูเซิร์นเป็นเมืองที่สวยงามแห่งหนึ่งของประเทศสวิตเซอร์แลนด์ มีตึกรามบ้านช่องอันสวยงาม รวมทั้งทะเลสาบ แม่น้ำ ภูเขาและป่าไม้ ไม่แปลกเลยที่ใครหลายๆ คนจะหลงรักเมืองนี้ไปเสียแล้ว

สะพานไม้ Chapel Bridge เป็นสะพานไม้ที่มีชื่อเสียงและเก่าแก่แห่งหนึ่งของยุโรป สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 ประดับตกแต่งบนโครงหลังคาหน้าจั่วด้วยภาพวาดในศตวรรษที่ 17 ซึ่งภาพเขียนเหล่านี้เป็นการเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของเมืองลูเซิร์น

โดยมีหอคอยน้ำ (Wasserturm) ซึ่งเดิมใช้เป็นที่คุมขังนักโทษและเก็บเอกสารรวมทั้งของมีค่าของเมืองไว้ หอคอยนี้มีลักษณะเป็นรูปทรงแปดเหลี่ยมที่มีฐานเชื่อมติดอยู่กับสะพานสร้างขึ้นราวปี ค.ศ. 1300 สะพานแห่งนี้เคยถูกไฟไหม้ไปเมื่อปี ค.ศ. 1993 แล้วก็มีการบูรณะใหม่จนมีสภาพใกล้เคียงของเดิม (ภาพวาดดั้งเดิมถูกไหม้ไปเยอะ)

รอบๆ บริเวณนี้ จะมีหงส์อยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งหงส์เหล่านี้เป็นหงส์ที่อยู่ตามธรรมชาติ..ไม่ได้มีการนำมาปล่อยอะไรทั้งนั้น

สภาพตัวสะพานไม้ (รูปอาจจะเบลอๆ นิดนึง)

รถไฟชมเมืองวิ่งผ่านแถวสะพานไม้…รู้สึกเหมือนอยู่ในสวนสนุกเลย

เมืองนี้คนไม่พลุกพล่านเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่เงียบเหงาซะทีเดียว

ตึกสีสันสดใสตั้งอยู่บริเวณเมืองเก่าของลูเซิร์น

ผู้คนออกมาทานข้าวกลางวันในร้านอาหารริมแม่น้ำ

บริเวณนี้มีที่นั่งสำหรับคนที่ซื้ออาหารแบบสำเร็จรูปจาก supermarket หรือว่าอาหารแบบ takeaway จากร้านต่างๆ นั่งทานไปด้วยชมวิวไปด้วย ช่างมีความสุขจริงๆ

บริเวณเมืองเก่าของลูเซิร์น

บริเวณสะพานข้ามแม่น้ำอีกแห่งของลูเซิร์น จะมีผู้คนมานั่งพักชมวิวไม่ขาดสาย

ที่มองเห็นเป็นปราสาทสีขาวๆ นั่นคือปราสาท Gütsch ซึ่งเป็นโรงแรมและร้านอาหาร

วิวนี้เป็นวิวที่มองจากบริเวณกำแพงเมืองและป้อมปราการซึ่งอยู่เลยขึ้นมาจากเมืองเก่ามาก ยอดเขาที่เห็นอยู่นั้นคือ ยอดเขา Pilatus นักท่องเที่ยวสามารถนั่งรถไฟขึ้นไปชมวิวบนยอดนั้นได้แต่ค่าโดยสารแพงเอาเรื่องอยู่เหมือนกัน

วิวของเมืองลูเซิร์นกับทะเลสาบและภูเขารอบๆ

อีกด้านนึงของเมืองลูเซิร์นซึ่งขนาบไปกับแม่น้ำ Reuss

บริเวณด้านหลังของป้อมปราการและกำแพงเมืองเก่า

ค่อยๆ เดินลงไปอย่างระมัดระวัง

สะพานไม้อีกแห่งนึงของเมืองลูเซิร์น

มีรถไฟลากขึ้นไปยังปราสาท Gütsch ด้วย แต่น่าจะยังไม่เปิดใช้บริการ

มีทางเดินจากตีนเขาขึ้นไปยังปราสาท Gütsch ทำเอาเราเหนื่อยพอสมควร

บริเวณป้อมปราการและกำแพงเมืองเก่า วิวนี้เป็นวิวที่มองจากปราสาท Gütsch

เสร็จแล้วเราเดินไปทางเมืองเก่าอีกสักพักแต่ให้เลียบทะเลสาบไปก็จะเห็น Hofkirche St. Leodegar หรือว่าโบสถ์ของ St. Leodegar บางส่วนของโบสถ์นี้ได้ถูกสร้างขึ้นระหว่างปีคศ.1633-1639 บนฐานของโบสถ์โรมันที่ถูกไฟไหม้ในปี 1633 ภายในจะมีแท่นบูชาพระแม่มาเรีย รูปปั้นนักบุญ Leodegar และ Mauritus ซึ่งเป็นนักบุญองค์อุปถัมภ์ของเมืองลูเซิร์น

บรรยากาศภายในโบสถ์ St. Leodegar

ร้านอาหารสวยๆ แบบสวิสบริเวณด้านหน้าของโบสถ์ St. Leodegar

เสร็จแล้วก็เดินต่อไปยังอนุสรณ์สถานสิงโตร้องไห้ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโบสถ์ St. Leodegar มากนัก

ระหว่างทางที่เดินไปยังอนุสรณ์สถานสิงโตร้องไห้จะมีร้านอาหารและบาร์นั่งดื่มเป็นระยะๆ

Löwendenkmal อนุสรณ์สถานสิงโตร้องไห้ เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อระลึกถึงทหารรับจ้างชาวสวิสหลายร้อยนายที่เสียชีวิตตอนไปออกรบให้กับราชวงศ์ฝรั่งเศส และถูกสังหารโดยคณะปฏิวัติเมื่อครั้งมีการปฏิวัติฝรั่งเศส อักษรที่สลักด้านบนเขียนไว้ว่า HELVETIUM FIDEI AC VIRTUTI (To the loyalty and bravery of the Swiss) แสดงถึงความเสียสละและจงรักภักดีต่อนายจ้าง

บริเวณนี้มีบ่อน้ำกว้างอยู่ด้านหน้า และสิงโตแกะสลักอยู่ตรงหน้าผาหินไม่สูงมากนัก มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาถ่ายรูปอยู่เนืองๆ แต่ไม่ได้เยอะมาก ทำให้ถ่ายรูปได้มุมสวยๆดี สามารถโยนเหรียญเพื่ออธิษฐานได้ ด้านหลังมีพิพิธภัณฑ์ซึ่งสามารถเข้าชมได้ฟรีโดยใช้สวิสพาส ซึ่งภายในพิพิธภัณฑ์มีสิ่งน่าสนใจมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ห้องกระจกลักษณะคล้าย Maze สวยงามมาก

จะเห็นว่านักท่องเที่ยวมีไม่เยอะมาก

บริเวณหน้าร้านขายของที่ระลึกแถวๆ สิงโตร้องไห้

หลังจากเยี่ยมชมสิงโตร้องไห้เสร็จแล้วก็เดินกลับมาอีกฟากนึงซึ่งอยู่ฝั่งเดียวกับสถานีรถไฟ

บริเวณใกล้ๆ สถานีรถไฟจะมีศูนย์ประชุมและสถานที่จัดแสดงเกียวกับวัฒนธรรมประจำเมืองลูเซิร์น ผู้คนชอบมานั่งพักผ่อนที่นี่แถมยังมี wifi ฟรีด้วย

บริเวณนี้ยังเป็นท่าจอดเรืออีกด้วย

เดินเลียบฝั่งทะเลสาบมาสักพักก็จะเจอสวน Ufschötti ซึ่งตั้งอยู่ริมทะเลสาบ บริเวณนี้ยังมีชายหาดให้เราได้เล่นน้ำเวลาอากาศร้อนๆ วันไหนอากาศดีจะมีผู้คนมาอาบแดดและทำกิจกรรมต่างๆ บริเวณสนามหญ้าในสวนเป็นจำนวนมาก

สำรวจและจองกิจกรรมที่น่าสนใจ

Klook.com
Share This Article